วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

คุณค่าที่แสดงให้เห็นสภาพชีวิต

                     คุณค่าที่แสดงให้เห็นสภาพชีวิต
            . การแสดงสภาพชีวิตในแง่ของความเชื่อ
              จากเรื่องความพยาบาทเนื้อเรื่องบางตอนจะเป็นการสะท้อนถึงการปฏิบัติตามความเชื่อต่างๆ ดังตัวอย่างเช่น
             -การการนับถือทูตผีดังข้อความที่ว่า
             ในเรื่องที่ช่วยพลเมืองในคราวอับจนใหญ่นั้นยังฝังอยู่ในหัวใจของพวกที่คงแก่เรียนอยู่เป็นเนืองนิตย์พวกเนียโปลิตันกลัวความตาย ถือผีถือสาง และรักตัวของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๓๑)
              -การทำพิธีฝังศพดังข้อความที่ว่า
             ท่านบาทหลวงที่ทีพระเดชพระคุณองค์นั้นอีกแล้ว      ท่านสมเพชว่าเขาจะฝังข้าพเจ้าเปล่าๆดุจะเป็นการไม่บังควร      ต้องมีของในศาสนาเป็นสิ่งนำหนทางไปสู่ที่ชอบด้วย     บางทีเมื่อสวดมนต์สวดพรส่งวิญญาณข้าพเจ้าแล้ว      ท่านจะเอาไม้กางเขนอันนั้นวางลงบนอก(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๔๘)
              .การแสดงสภาพชีวิตในแง่ขนบธรรมเนียม
              เป็นการแสดงถึงการใช้ชีวิตหรือขนมธรรมเนียม     ซึ่งเป็นลักษณะการประพฤติที่สืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษลักษณะเช่นนี้ปรากฏในเรื่องเช่น
              -การแห่แม่พระ)ดังข้อความที่ว่า
              เดือนเมษายนเป็นเดือนที่เขาแห่แม่พระ  ข้าพเจ้าจึงนึกได้ทันทีว่าเห็นจะเป็นขบวนแห่แม่พระแน่แล้วไม่มีอื่น    ขี้เกียจหน่อยๆเห็นพระเห็นเครื่องแห่เห็นแกว่งกระเช้าเนื้อไม้กฤษณาขี้ธูปที่เผาไปเห็นไฟเทียนเรียงเป็นแถว    เห็นพวกเด็กๆและผู้หญิงสาวๆคลุมผ้าโปร่งขาว(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๑๐)
           
              -การจูบมือหญิงสาวที่มีอายุหรือยศสูงกว่าเสมอตัวไป     เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความเคารพและนับถือมากดังข้อความที่ว่า
              หล่อนยืนมือมาให้จับ     ข้าพเจ้าก็ยกขึ้นถึงริมฝีปากหล่อนยิ้มเมื่อชักมือกลับไปและมองข้าพเจ้า               (พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๑๔๘)
               -ธรรมเนียมที่ฝรั่งผู้หญิงจะขึ้นรถ  ผู้ชายที่รู้จักอยู่ที่นั้นต้องช่วยพยุงดังข้อความที่ว่า
              เมื่อว่าดังนั้นแล้วกระทำกิริยาลาออกจากห้อง        เฟอร์รารีกับข้าพเจ้ารีบเดินตามมาด้วยจนถึงรถซึ่งจอดอยู่ที่ประตู       รถม้าคู่นั้นที่ข้าพเจ้าซื้อให้เมื่อวันเกิดหล่อน       พอถึงเจ้าเฟอร์รารีขยับเข้าไปใกล้จะพยุงหล่อนขึ้นรถม้า(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๑๗๘)
               .การแสดงสภาพชีวิตในแง่พิธีกรรมต่างๆ                                                                                         
                จากเรื่องความพยาบาทเนื้อเรื่องบางตอนจะเป็นการกล่าวถึงพิธีกรรมต่างๆ     ถึงแม้ว่านวนิยายเรื่องความพยาบาทจะเป็นนวนิยายแปลก็ตามแต่ก็มีพิธีกรรมของประเทศไทยอยู่ด้วย    ซึ่งจากการศึกษาเนื้อหาของเรื่องจะเห็นได้ว่ามีการนำเอาพิธีกรรมของประเทศไทยมาเปรียบเทียบกับชาติตะวันตกตัวอย่างเช่น
                -พิธีฌาปนกิจ
               พิธีฌาปนกิจคือ    พิธีกรรมทางศาสนาพุทธของไทยเป็นการนำซากศพของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วไปเผาในด้วยเปลวเพลิงดังข้อความที่ว่า
               ควรท่านจะส่งไปวัดเข้าเมรุทำฌาปนกิจเสีย     นั่นแหละท่านจึงควรเชื่อเอาเป็นแน่ได้ว่าคนที่ถูกเผานั้นถึงแก่กรรมจริง    มิเช่นนั้นจะไม่ทรามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป!    การทำฌาปนกิจเป็นการดีที่สุดและเป็นทางเดียวเท่านั้นไม่สกปรกและทั้งเซฟ      ทำไมคนทั้งโลกไม่เอาเยื่องย่างไทย?     การที่ชำระล้างทรากศพของผู้ที่เรารัก(หรือแกล้งทำรัก)ด้วยเพลิงดีกว่าที่จะเอาไปฝังสุ่มๆ     หรือเรียงลำดับเข้าไว้ในห้องซุ้ยที่เย็นชื้นแฉะฉะนั้น    มีสัตว์ต่างๆนานาอยู่ในพื้นดินอุดมด้วยสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังไม่น่าจะออกชื่อหนอนตัวยาวๆ     สัตว์ที่ตาบอดและมีปีกแต่บินไม่ได้      มีแมลงที่เกิดจากน้ำเหลืองสัตว์ที่ท่านเห็นเข้าและต้องหนีเท่ากับเห็นเสือ      โอ่ท่านผู้หญิงผู้อ่อนแอมันจะต้องทำให้ดมผิวมะกรูดและถึงท่านก็ดีท่านผู้ชายผู้มีเรี่ยวแรงมันจะทำให้ท่านขนพองสยองเกล้า     แต่มีสิ่งที่ร้ายกว่านั้นอีกมากในพิธีฝังศพอย่างฝรั่ง   สิ่งนั้นคือการไม่แน่ต่างว่าถ้าเราหย่อนหีบที่ใส่ศพของผู้ที่รักแห่งเราลงไปในห้องซุ้ยหรือหลุมต่างว่า     ถ้าภายหลังเวลาที่เราแต่งตัวเครื่องไว้ทุกข์และทำหน้าให้จ๋อยเป็นที่โศกเศร้าสำรวมอิริยาบถไม่ให้รื่นเริง        ต่างว่าเผื่อการที่นำไปแล้วนั้นยังไม่เป็นที่พอใจต่างว่า       ที่ที่เราฝังศพไว้นั้นจะมีที่กั้นคือประตูหรือปากหลุมไม่แข็งแรงนักต่างว่ามีเทพยดามาทำลายหีบที่ใส่ศพอันแน่นหนานั้นให้พินาศไป      ต่างว่าเพื่อนเราที่เราเชื่อว่าตายแล้วจะไม่ตายและกลับมาท้าทายต่อความรักของเราใหม่     เราไม่เสียใจหรือว่าไม่เอาอย่างคนไทยในการกระทำฌาปนกิจ(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:-)
               จากบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่าในประเทศไทยเมื่อมีผู้ที่ถึงแก่กรรมบรรดาญาติมิตรสหายคนที่รักจะนำร่างที่ไร้ซึ่งลมหายใจไปประกอบตามพิธีกรรมความเชื่อของศาสนาพุทธ     โดยการนำร่างของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วไปทำการฌาปนกิจด้วยเปลวเพลิง      ส่วนในชาติตะวันตกนั้นเมื่อญาติมิตรสหายที่รักถึงแก่กรรมก็จะทำไปประกอบพิธีตามหลักศาสนาจากนั้นก็จะนำศพไปฝังในที่ฮวงซุ้ยประจำตระกูล

               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น