คุณค่าของวรรณคดี
คุณค่าในเชิงวรรณศิลป์
ความพยาบาทของแม่วันแต่งด้วยคำประพันธ์ที่เป็นร้อยแก้วและมีคุณค่าในเชิงวรรณศิลป์หรือศิลปะ การแต่งหลายประการคือ
๑. อุปมาโวหาร
อุปมาโวหารคือ
การนำเอาสิ่งหนึ่งไปกล่าวเปรียบเทียบกับอีกสิ่งหนึ่ง เพื่อให้ผู้อ่านเกิดภาพอย่างใดอย่างหนึ่งในห้วงคิด ตัวอย่างเช่น
-การเปรียบเทียบความงามของเคานเตส
โรมานีดังข้อความที่ว่า
ในชั่วพริบตาเดียวนั้น
ความงามปรากฏแก่จักษุข้าพเจ้าหน้าๆหนึ่ง
หน้านั้นได้งามเปล่งประดุจดวงดาวแปล่งออกมาจากก้อนเมฆแห่งผล
หน้าๆนั้นที่มีแก้มอันแปล่งประดุจผลมะปราง งามบริบูรณ์ที่หาตำหนิมิได้ ดวงตาทั้งสองข้างวาวและดำประดุจะมณีนิล หน้านั้นที่มีปากบางเล็กและยิ้มยั่วยวนใจ (พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๑๑)
จากข้อความข้างตนจะเห็นได้ว่าผู้เขียนต้องการจะสื่อให้ผู้อ่านได้เห็นถึงภาพความงามของเคานเตส โรมานีว่ามีความงดงามเพียงใด
ทุกส่วนภายในใบหน้ามีความงามที่หาที่ติมิได้ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่ขาวเเปล่งประกายเหมือนกับก้อนเมฆ มีแก้มที่มีสีสันเหมือนผลมะปราง และมีดวงตาที่ดำเหมือนมณีนิล
-การเปรียบเทียบลักษณะของผมที่เปลี่ยนแปลงของฟาบีโอดังข้อความที่ว่า
ผมซึ่งแต่ก่อนดำเป็นมันประดุจขนกาน้ำนั้น
บัดนี้ขาวเหมือนสำลีแต่ทว่ายังดกงามคงอยู่อย่างเดิม(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๒)
จากข้อความข้างต้นผู้เขียนต้องการสื่อให้เห็นภาพของการเปลี่ยนแปลงไปของผมจากที่เคยดำเหมือนขนกากลับเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนสำลี
-การเปรียบเทียบโรคอหิวาตกโรคดังข้อความที่ว่า
ในขณะที่อหิวาตกโรคเป็นประดุจเคียวอันคมอยู่กลางนาข้าวที่สุกแล้ว
เกี่ยวเอาชาวเมืองที่นับถือความสกปรกเป็นสรณะไปนับด้วยร้อยด้วยพัน(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๒๑)
จากข้อความข้างต้นผู้เขียนต้องการสื่อให้เห็นภาพถึงความร้ายกาจของอหิวาตกโรคโดยนำไปเปรียบเทียบกับเคียวที่มีความคมที่นำไปเกี่ยวข้าว
๒. สาธกโวหาร
สาธกโวหารคือ
กระบวนการที่มุ่งให้เห็นความชัดเจนโดยการยกตัวอย่างหรือเรื่องราวประกอบข้อความเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นต่างๆให้ชัดเจนนักแน่นตัวอย่างเช่น
-ตอนที่ฟาบีโอกล่าวถึงหลักความจริงของเพื่อนแท้ดังข้อความที่ว่า
เพื่อนที่ไหนให้ไปหาทั้งโลกเมื่อขัดสนจะกอบโกยเอาเงินเอาทองมาให้เป็นหนักเป็นหนาเป็นไม่มีแล้วหาไม่สุภาษิตจะวางไว้ทำไมว่า
“เพื่อนกิน
สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี
หาง่าย
หลายหมื่นมี มากได้
เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี วาอาตม์
หายาก
ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา”
เพื่อนยากนั้นเกือบจะว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ จะมีบ้างก็น้อยเต็มที(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๕๕)
จากข้อความข้างต้นจะเห็นได้ว่าผู้เขียนต้องการให้เห็นถึงความชัดเจนของเรื่องการคบเพื่อนจึงได้นำเอาสุภาษิตมาเป็นตัวอย่างประการการเรื่องราวที่ตนกล่าวถึง
โดยจะเห็นว่าสุภาษิตที่ยกมาสอดรับกับส่วนที่ต้องการจะสื่อและยังจะมีบทสรุปตอนท้ายเกี่ยวกับกับคบเพื่อนอีกว่าเพื่อนนั้นในชีวิตจริงตายหายาก
๓. บรรยายโวหาร
บรรยายโวหารคือ
การอธิบายเรื่องราวต่างๆอย่างละเอียดถี่ถ้วนตรงตามข้อเท็จจริง การอธิบายกระบวนการ การวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆรวมทั้งการนิยามหรืออธิบายความหมายของคำตัวอย่างเช่น
-ตอนที่กล่าวถึงสาเหตุการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคดังข้อความที่ว่า
ทุกคนย่อมทราบว่าฤดูร้อนในเมืองเนเปิลล์เมื่อค.ศ.๑๘๘๔เป็นอย่างไร หนังสือพิมพ์ทุกประเทศย่อมกล่าวถึงความน่ากลัวอย่างมหันต์
อหิวาตกโรคได้เกิดขึ้นและได้แผ่ผ่านไปอย่างร้ายแรงดูราวพระยามัจจุราชต้องการสดมภ์มนุษย์ไปเข้ากองทัพเมืองผี ฉะนั้นพลเมืองเป็นอเนกประการทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ไปถึงบ้านไม่ทัน ลงนอนกลิ้งร้องครางครึมระงมคอยท่าความตายอยู่ข้างทางเดิน
โรคอันร้ายแรงอันนี้เกิดขึ้นเพราะความสกปรกโสมม
ซึ่งเจ้าพนักงานกรมสุขาภิบาลมิได้กระทำตามหน้าที่ละเลยไว้จนอากาศเสียจนเกิดโรคขึ้นติดต่อกันไปมากอย่างรวดเร็ว(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๑๘)
จากข้อความข้างต้นผู้เขียนต้องการเขียนอธิบายเรื่องราวของอหิวาตกโรคว่ามีความร้ายกาจขนาดไหน และสาเหตุใดจึงได้แพร่ระบาดกันอย่างรวดเร็วโดยทั้งนี้ผู้เขียนได้บรรยายไว้อย่างละเอียดว่าเป็นเพราะการบกพร่องต่อหน้าที่ของกรมสุขาภิบาลที่มิได้กระทำตามหน้าที่จึงทำให้ภายในเมืองสกปรกเป็นอันมากจึงทำให้โรคนี้แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว
๔. พรรณนาโวหาร
พรรณนาโวหารคือ
การกล่าวเป็นเรื่องเป็นราวอย่างละเอียดให้ผู้ฟังนึกเห็นเป็นภาพตัวอย่างเช่น
-การพรรณนาถึงสภาพภูมิอากาศของเมืองดังข้อความที่ว่า
ความร้อนในเมืองเป็นอย่างยิ่ง
แสงแดดแปลบเข้าตาราวกับไปทอมาจากแผ่นกระจกน้ำในอ่าวนิ่งราวกับอยู่ในอ่างควันและเปลวไฟที่ขึ้นจากปล่องภูเขาไฟนั้นน้อย
ดูเหมือนจะอายความร้อนซึ่งอยู่ภายนอกไม่กล้าแผลงอิทธิฤทธิ์พวยพุ่งพุขึ้นมากดังเคย แต่ชั้นนกหคที่บินร่อนอยู่ตามอากาศและจับอยู่ตามพุ่มไม้ก็ไม่ใคร่จะร้องเพลงอันไพเราะ(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๒๐)
จากข้อความข้างต้นจะเห็นได้ว่าผู้เขียนได้กล่าวถึงเรื่องราวของสภาพภูมิอากาศที่ร้อนอย่างมาก โดยผู้เขียนจะใช้การนำสิ่งต่างๆมาประกอบให้ผู้อ่านเห็นภาพเหมือนตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้น
ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนนำมากล่าวถึงจะเห็นได้ว่ามีความสอดคล้องกัน
จากบทความต้องการจะสื่อให้เห็นถึงอากาศที่ร้อนมากๆ
จึงได้นำข้อความที่กล่าวถึงน้ำที่เมื่อโดนแสงแดดก็จะเหมือนกระจกที่เมื่อเรามองไปจะทำให้รู้สึกแสบตา และอ่างควันและเปลวไฟที่ขึ้นจากปล่องภูเขาไฟเมื่อเราได้อยู่ใกล้จะทำให้รู้สึกร้อนรู้สึกแสบผวหนัง
-การพรรณนาถึงสวนดังข้อความที่ว่า
ณ
ที่นั้นเป็นที่ร่มรื่นชื่นชุ่มใต้ต้นไทรใหญ่ใบหนาแผ่กิ่งก้านสาขาอันไพศาล บังแสงอาทิตย์อันร้อนแรงมิให้ต้องซึ่งสกลกายได้และให้บริเวณนั้นก็ดาดาษไปด้วยบุบผชาติซึ่งมีกลิ่นหอมอันชื่นใจ
ขึ้นอยู่ออกแน่นหนาเป็นคณะเป็นหมู่ราวกับชาวสวนเขาได้จัดสรรปลูกไว้ในสวนแห่งพระราชา ณ ฝั่งน้ำมีจระเข้ใหญ่หลายตัวขึ้นมานอนเผยปากรับซึ่งแสงพระอาทิตย์ตามนิสัยของมันหลับนิ่งสนิทไม่มีอาการไหวเคลื่อนอันใด(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๓๑)
จากข้อความข้างต้นผู้เขียนต้องการสื่อให้เห็นภาพของสวนที่มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเย็น
และบริเวณนั้นก็รายล้อมไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเหมือนมีใครมาจัดไว้เป็นสัดส่วนได้อย่างสวยงาม
๕.เทศนาโวหาร
เทศนาโวหารคือ
กระบวนการที่ชี้ให้แจงอบรมสั่งสอนชี้ให้เห็นคุณและโทษของสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุมีผล
การเขียนเทศนาโวหารที่ดีจึงประกอบด้วยชั้นเชิงในการอธิบายข้อความที่เป็นเหตุเป็นผล
มีหลักฐานอ้างอิงหรือมีตัวอย่างประกอบให้เห็นชัดเจน เพื่อจูงใจ โน้มน้าวใจให้ผู้อ่านเชื่อถือและปฏิบัติตามตัวอย่างเช่น
-ตอนที่ฟาบีโอกล่าวถึงเรื่องราวของตนและเพื่อนพ้องดังข้อความที่ว่า
ในโลกมนุษย์นี้
มนุษย์คนใดให้ดีเท่าดีเพียงใดก็ไม่สามารถที่จะมีความสุขอยู่อย่างยั่งยืนนานได้ พระเคราะห์ย่อมเข้าเสวยอายุเป็นเวรเปลี่ยนอยู่เสมอ องค์ใดดีก็ดีไป องค์ใดที่ร้านกาจ—ฮิ! แต่เพียงดูครั้งเดียว คำพูดเดียว สัมผัสนิดเดียว สายสร้อยแห่งความประพฤติอันเคยนำมาซึ่งความสุขจะขาดออกเป็นท่อนๆ(พระยาสุรินทราชา,๒๕๑๔:๙)
จากข้อความข้างต้นจะเห็นได้ว่าผู้เขียนต้องการแสดงให้เห็นถึงหลักสัจจะธรรมของชีวิตว่า
คนเราต่อให้เราทำดีแค่ไหนเราก็ย่อมจะมีทั้งความสุขความทุกข์ปะปนกันไป ไม่มีใครในโลกที่ทั้งชีวิตจะมีแต่ความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น